Page 41 - JRISS VOL2 NO4 October-December 2018
P. 41

36  Journal of Ratchathani Innovative Social Sciences : Vol.2 No.4 October-December 2018

             (2547, น..121 – 128) ที่พบวา การพัฒนากิจกรรมการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญวิชา
             วิทยาศาสตรชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง โดยใชรูปแบบซิปปา การ

             พัฒนากิจกรรมการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ โดยใชรูปแบบซิปปา ชวยใหผูเรียนเกิดการ
             เรียนรูไดจริงเต็มตามศักยภาพของแตละบุคคลดานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผลปรากฏวา
             นักเรียนสามารถทําคะแนนจากแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไดคิดเปนรอยละ 87.84
             สูงกวาเกณฑกําหนดไวรอยละ 85 และมีจํานวนนักเรียนที่ผานเกณฑคิดเปนรอยละ 95.83
             ของนักเรียนทั้งหมด ซึ่งชี้ใหเห็นวาการพัฒนากิจกรรมการเรียนรูตามรูปแบบซิปปาสามารถ

             พัฒนาและเปลี่ยนแปลงการเรียนรูของผูเรียนไปในทางที่ดีมีคุณภาพ และสอดคลองกับ
             การศึกษาของ จันที สิทธิศาสตร (2549, น.99 – 102) ที่พบวา การพัฒนาแผนการจัด
             กิจกรรมการเรียนรูโดยใชซิปปา เรื่อง สมการเชิงเสนตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 มี

             ประสิทธิภาพ 86.42/88.09 และสอดคลองกับการศึกษาของ ธนพงศธร  ดวงพระเกษ (2550,
             น.79 – 82) ที่พบวา แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรูแบบซิปปา เรื่องเพศศึกษา กลุมสาระการ
             เรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปที่ 6 มีการพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการ
             เรียนรูแบบซิปปามีประสิทธิภาพเทากับ 85.86/88.33 และสอดคลองกับการศึกษาของ

             กนกวรรณ  ภุศรีฐาน (2554, น.97 – 98) ที่พบวา การเปรียบเทียบการอานจับใจความ การ
             คิดวิเคราะหและเจตคติตอกิจกรรมการเรียนรู ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 4 ระหวาง
             การจัดกิจกรรมการเรียนรูแบบซิปปากับการจัดกิจกรรมการเรียนรูแบบปกติมีประสิทธิภาพ
             เทากับ 89.45/87.16 และ86.06/85.25 ตามลําดับ

                     2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกอนและหลังการเรียนโดยการจัด
             กิจกรรมการเรียนรูวิทยาศาสตร เรื่อง ชีวิตพืช โดยใชกระบวนการสอนแบบซิปปาโมเดล
             สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 2 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกวากอน
             เรียนอยางมีนัยสําคัญที่ระดับ 0.01 เปนเพราะซึ่งสอดคลองกับการศึกษาของ จันที  สิทธิ

             ศาสตร (2549, น.99 – 102) ที่พบวา การพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรูโดยใชซิปปา
             เรื่อง สมการเชิงเสนตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 ผูศึกษาคนควาไดพัฒนาขึ้นมี
             ประสิทธิภาพสูงกวาเกณฑที่ตั้งไวและการจัดกิจกรรมการเรียนรูทําใหนักเรียนไดศึกษาคนควา
             หาความรูดวยตนเอง จากการเรียนเปนกลุม รายบุคคลและการทํากิจกรรมรวมกัน ทําใหมี

             ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และสอดคลองกับการศึกษาของ กาญจนา  กาฬภักดี (2550,
             น. 84 – 88) ที่พบวา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตรและคานิยมทางวิทยาศาสตรดาน
             การมีเหตุผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 ดวยกระบวนการเรียนรูแบบซิปปา นักเรียนที่
             เรียนดวยกระบวนการเรียนรูตามรูปแบบซิปปามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตรหลัง

             เรียนสูงกวากอนเรียนและนักเรียนมีคานิยมทางวิทยาศาสตร ดานการมีเหตุผลหลังเรียนสูง
             กวากอนเรียน และสอดคลองกับการศึกษาของ ยุพา  ผึ่งฉิมพลี (2550, น. 86 – 90) ที่พบวา
             กระบวนการจัดการเรียนรู วิชาชีววิทยา เรื่องการลาเลียงสารในรางกายของสิ่งมีชีวิต ชั้น
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46