Page 85 - JRISS_VOL1
P. 85
80 Journal of Ratchathani Innovative Social Sciences : Vol.1 No.1 April-June 2017
บทความ และข้อมูลจากการค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ต เพื่อศึกษาหลักเกณฑ์ทางกฎหมายในการใช้
สิทธิเรียกร้องในทางแพ่งให้ผู้สั่งจ่ายชําระหนี้กรณีเช็คถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน และความรับ
ผิดอาญาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 และหลักเกณฑ์การ
ดําเนินคดีแพ่งและคดีอาญาดังกล่าว เปรียบเทียบตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวกับการกระทําความผิด
อาญาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 กับกฎหมายส่วนแพ่งตาม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เปรียบเทียบการดําเนินคดีแพ่งและอาญาเกี่ยวกับการฟ้อง
เรียกให้ผู้สั่งจ่ายชําระหนี้กรณีเช็คถูกปฏิเสธการจ่ายเงิน การดําเนินคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย
ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 การดําเนินคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ตาม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ตลอดจนปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินคดีข้างต้น
2. วิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสาร เพื่อเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงกฎหมายให้การ
ดําเนินคดีอาญาและคดีแพ่งที่ฟ้องผู้สั่งจ่ายให้รับผิดกรณีที่เช็คถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
สามารถดําเนินคดีไปในคดีเดียวได้ โดยไม่ติดปัญหาเรื่องอํานาจพิจารณาคดีของศาล
ผลการศึกษาและอภิปรายผล
จากการศึกษาและวิจัย พบว่า
1. การกระทําความผิดอาญาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.
2534 มาตรา 4 มีองค์ประกอบความผิด และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้(สนิท สนั่นศิลป์, 2534)
- ผู้กระทํา จะเป็นผู้สั่งจ่ายเช็ค หรือผู้ออกเช็ค
- การกระทําความผิด คือ การออกเช็คเพื่อชําระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตาม
กฎหมายโดยมีลักษณะหรือการกระทําอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น
(2) ในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้
(3) ให้ใช้เงินมีจํานวนสูงกว่าจํานวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ใน
ขณะที่ออกเช็ค
(4) ถอนเงินทั้งหมดหรือแต่บางส่วนออกจากบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินตามเช็ค
จนจํานวนเงินเหลือไม่เพียงพอที่จะใช้เงินตามเช็คนั้นได้
(5) ห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คนั้นโดยเจตนาทุจริต
- วัตถุแห่งการกระทํา และผู้เสียหาย คือ ผู้ทรงเช็ค หรือผู้ได้เช็คมาครอบครองโดย
ชอบด้วยกฎหมายเป็นคนสุดท้าย