Page 77 - JRIHS_VOL1
P. 77
72 Journal of Ratchathani Innovative Health Sciences : Vol.1 No.1 April-June 2017
พฤติกรรมการตรวจสุขภาพ
ตัวแปร จํานวน (ร้อยละ) χ p-value
2
ระดับสูง ระดับ ระดับต่ํา รวม
ปานกลาง
รายได้เฉลี่ยต่อเดือน
น้อยกว่า 12,000 บาท 10 (38.5) 13 (37.1) 8 (19.0) 31 (30.1)
12,001 - 36,000 บาท 11 (42.3) 19 (54.3) 25 (59.5) 55 (53.4) 8.287 0.218
36,001 – 60,000 บาท 2 (7.7) 2 (5.7) 7 (16.7) 11 (10.7)
มากกว่า 60,001 บาท 3 (11.5) 1 (2.9) 2 (4.8) 6 (5.8)
ระดับการศึกษา
ประถมศึกษา 6 (23.1) 10 (28.6) 15 (35.7) 31 (30.1)
มัธยมศึกษาตอนต้น 3 (11.5) 4 (11.4) 6 (14.3) 13 (12.6)
มัธยมศึกษาตอนปลาย/ 8 (30.8) 8 (22.9) 7 (16.7) 23 (22.3)
ปวช. 7.968 0.632
อนุปริญญา/ปวส. 2 (7.7) 2 (5.7) 5 (11.9) 9 (8.7)
ปริญญาตรี 4 (15.4) 10 (28.6) 8 (36.4) 22 (21.4)
อื่นๆ 3 (11.5) 1 (2.9) 1 (2.4) 5 (4.9)
รวม 26 (25.2) 35 (34.0) 42 (40.8) 103 (100.0)
จากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของการรับรู้ประโยชน์กับพฤติกรรมสุขภาพ พบว่า
ปัจจัยด้านการรับรู้ประโยชน์ในการตรวจสุขภาพไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการตรวจสุขภาพ
อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และกลุ่มตัวอย่างมีการรับรู้ประโยชน์ในการตรวจสุขภาพ
อยู่ในระดับสูง ร้อยละ 93.2 รองลงมาคือ มีการรับรู้ประโยชน์อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 6.8
ความสัมพันธ์ของการรับรู้อุปสรรคกับพฤติกรรมสุขภาพ พบว่า ปัจจัยด้านการรับรู้
อุปสรรคในการตรวจสุขภาพมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการตรวจสุขภาพอย่างมีนัยสําคัญทาง
สถิติที่ระดับ 0.01 และกลุ่มตัวอย่างมีการรับรู้อุปสรรคในการตรวจสุขภาพอยู่ในระดับปานกลาง
และระดับต่ํา ร้อยละ 41.7 รองลงมาคือ มีการรับรู้อุปสรรคอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 16.5
ความสัมพันธ์ของปัจจัยกระตุ้นกับพฤติกรรมสุขภาพ พบว่า ปัจจัยด้านกระตุ้นในการ
ตรวจสุขภาพมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการตรวจสุขภาพอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
0.01 โดยกลุ่มตัวอย่างมีการรับรู้ปัจจัยกระตุ้นในการตรวจสุขภาพอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 66.0
รองลงมาคือ มีการรับรู้ปัจจัยกระตุ้นในระดับปานกลางและระดับต่ํา ร้อยละ 25.2 และร้อยละ
8.7 ตามลําดับ รายละเอียดดังแสดงในตารางที่ 4