Page 71 - JRISS-vol.1-no.3
P. 71
66 Journal of Ratchathani Innovative Social Sciences : Vol.1 No.3 October-December 2017
2. ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหาร
สถานศึกษา กลุ่มเมืองสําโรงขามป้อม สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
อุบลราชธานี เขต 4
2.2 ควรศึกษาการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่ม
เมืองสําโรงขามป้อม สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 จาก
กลุ่มผู้ปกครอง หรือคณะกรรมการสถานศึกษา
2.3 ควรศึกษารูปแบบการบริหารโรงเรียนที่มีความสัมพันธ์กับหลักธรรมาภิบาล
เพื่อเป็นแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มเมืองสําโรง
ขามป้อม สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4
เอกสารอ้างอิง
จารุวรรณ สุรินทร์. (2552). การใช้หลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษากลุ่มเครือข่ายวัง
สามหมอ 1 สํานักงานเขตพื้นที การศึกษาอุดรธานี เขต 2. สารนิพนธ์. หลักสูตรศึกษา
ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.
ฐิติรัตน์ เอี่ยมสกลุ.(2555). พฤติกรรมการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารโรงเรียน
สังกัดเทศบาลนครแหลมฉบัง. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการ
บริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
นัยนา เจริญพล. (2552). การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหาร
สถานศึกษา สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจังหวัดขอนแก่น.
วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย.
พระปลัดไพรวัลย์ ชาคโร (ศรีเมือง). (2558.) การบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของ
ผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสํานักการศึกษาสํานักงานเขตสายไหม
กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระวิรัช เอี่ยมศรีดี. (2554). การประเมินความต้องการจําเป็นในการบริหารงานที่ดีตามหลัก
ธรรมาภิบาลของครูและบุคลากรของสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาในจังหวัด
นครปฐม. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนศึกษา บัณฑิต
วิทยาลัย. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
พิชญาภา จันทศรี. (2553). ปัญหาและความต้องการในการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล
ของบุคลากร สังกัดสถาบันการพลศึกษา. วารสารวิชาการ สถาบันการพลศึกษา,
2(2),115-126.