Page 62 - JRIHS_VOL1
P. 62
Journal of Ratchathani Innovative Health Sciences : Vol.1 No.1 April-June 2017 57
อภิปรายผลการวิจัย
จากผลการวิจัยพบว่า ภายหลังการทดลองกลุ่มทดลองมีความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ ทักษะ
ชีวิตด้านการตระหนักรู้ในตน ความสามารถด้านการคิดและการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
ความสามารถด้านการสื่อสารเพื่อป้องกันโรคเอดส์ และความตั้งใจที่จะกระทําในการป้องกันโรค
เอดส์ สูงกว่าก่อนการทดลอง และสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01
(P-value<0.01) เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย ทั้งนี้เนื่องจากการจัดกิจกรรรมตามโปรแกรมสุข
ศึกษาโดยประยุกต์ทักษะชีวิตร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคม มีขั้นตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้
เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตในการพัฒนาพฤติกรรมการป้องกันโรคเอดส์ โดยใช้กระบวนให้สุข
ศึกษาหลากหลายวิธีการ ได้แก่ การบรรยายประกอบสื่อ การอภิปรายกลุ่ม การฝึกปฏิบัติ/การ
แสดงบทบาทสมมุติ และการระดมสมอง ตามกิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งนักเรียนกลุ่มทดลองได้มี
ส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของกิจกรรมตามโปรแกรม สุขศึกษา ทําให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องโรค
เอดส์และวิธีการป้องกันที่ถูกต้อง เกิดการเรียนรู้ ตระหนักรู้ในตนเองและผู้อื่น และมีทักษะชีวิต
ด้านการป้องกันโรคเอดส์มากขึ้น นําไปสู่การพัฒนาพฤติกรรมการป้องกันโรคเอดส์ของนักเรียน
สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาทักษะชีวิตขององค์การอนามัยโลก (WHO 1994, อ้างถึงใน จุฬาภรณ์
โสตะ, 2554) ที่ว่าการพัฒนาทักษะชีวิตเป็นการเชื่อมโยงของความรู้ทักษะ ทัศนคติ และค่านิยม
ทําให้เกิดพฤติกรรมไปในทางบวก มีพฤติกรรมไปในทางที่ถูกต้อง ซึ่งนําไปสู่การป้องกันปัญหา
ด้านสุขภาพได้ และการนําทักษะชีวิตมาประยุกต์ใช้จะทําให้บุคคลรู้จัก เข้าใจตนเอง และเข้าใจ
ผู้อื่นและมีทักษะในการที่จะจัดการปัญหารอบๆ ตัวในปัจจุบันและเตรียมปรับตัวในอนาคตได้ มี
การให้แรงสนับสนุนทางสังคมโดยการแจกคู่มือทักษะชีวิตเพื่อป้องกันโรคเอดส์ ให้คําแนะนําใน
การศึกษาคู่มือ และเยี่ยมให้กําลังใจ สัปดาห์และ 2 ครั้งๆ ละ 30 นาที ซึ่งเป็นการสนับสนุนทั้ง
ด้านการให้กําลังใจ ให้คําแนะนํา และให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ทําให้นักเรียนกลุ่ม
ทดลองเกิดความเชื่อมั่น มีความพร้อมและเต็มใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรมตามแผนการให้สุขศึกษา
สอดคล้องกับแนวคิดของ Kahn (1979) ที่กล่าวถึงแรงสนับสนุนทางสังคมว่าประกอบด้วยการมี
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลซึ่งรวมไปถึงการแสดงความรู้สึกในทางที่ดีของบุคคลหนึ่งแก่บุคคลหนึ่ง
การให้ความมั่นใจในการประพฤติปฏิบัติของบุคคลนั้นว่าดีหรือถูกต้อง การให้ความเห็นและการ
ช่วยเหลือด้านสิ่งของ โดยผู้ให้แรงสนับสนุนทางสังคมต้องให้ในสิ่งที่ผู้รับต้องการหรือรับรู้ถึงสิ่ง
นั้น ผลลัพธ์ในทางด้านบวกจึงจะเกิดขึ้น และสอดคล้องกับแนวคิดของ Caplan (1974) ที่ว่า
ธรรมชาติของการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างบุคคลต้องมีการให้การช่วยเหลือ สนับสนุนทั้งด้าน