Page 66 - JRIHS_VOL1
P. 66
Journal of Ratchathani Innovative Health Sciences : Vol.1 No.1 April-June 2017 61
มีประสิทธิผล สามารถนําไปใช้ในการพัฒนาพฤติกรรมการป้องกันโรคเอดส์ของนักเรียน
มัธยมศึกษาปีที่ 2 นําไปขยายผลสู่กลุ่มนักเรียนในระดับเดียวกันได้
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะจากผลการวิจัย
1.1 สถานศึกษาในระดับมัธยมศึกษาควรนําโปรแกรมนี้ไปประยุกต์ในการจัดการ
เรียนการสอนเรื่องเพศศึกษาให้แก่นักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีทักษะชีวิตในการป้องกันโรคเอดส์ที่
ถูกต้อง ส่งเสริมให้เกิดการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์
1.2 ควรนําโปรแกรมสุขศึกษาโดยประยุกต์ทักษะชีวิตร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคม
ในการพัฒนาพฤติกรรมการป้องกันโรคเอดส์ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 จังหวัดอุบลราชธานี
ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาทักษะชีวิตด้านอื่นๆ เช่น การป้องกันยาเสพติด
2. ข้อเสนอแนะในการทําวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรวิจัยติดตามประเมินผลความคงทนของพฤติกรรมสุขภาพ หลังการเข้าร่วม
โปรแกรมสุขศึกษาไปแล้ว 6 เดือน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต้องใช้เวลานาน
พอสมควรจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน และทราบถึงความคงทนของพฤติกรรม
สุขภาพ
2.2 ควรทําการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โดยการให้นักเรียนมีส่วนร่วมใน
การวางแผนออกแบบกิจกรรมและเนื้อหาการเรียนรู้ที่ต้องการ และมีส่วนร่วมในการประเมินผล
พฤติกรรมตนเองและเพื่อน
เอกสารอ้างอิง
จุฬาภรณ์ โสตะ. (2554). แนวคิด ทฤษฎี และการประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ.
ขอนแก่น : คณะ สาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ทรงพล ต่อนี, จุฑามาศ เทพชัยศรี และเฉลียว ผลพิกุล. (2555). ผลของโปรแกรมสุขศึกษาโดย
ประยุกต์ทักษะชีวิต ที่มีต่อทักษะชีวิตในการป้องกันโรคเอดส์ของนักเรียน.วารสารคณะ
พลศึกษา, 15 (ฉบับพิเศษ), 316-322.
ภัทรภร สุราเสถียรกุล. การเสริมสร้างทักษะชีวิตร่วมกับกระบวนการกลุ่ม และการเสริมแรงเพื่อ
การป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรในนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสาร
วิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ. 8(2), 126-178.