Page 25 - JRISS VOL2 NO4 October-December 2018
P. 25
20 Journal of Ratchathani Innovative Social Sciences : Vol.2 No.4 October-December 2018
พลเรือน, 2552, น.2) หากบุคลากรสามารถปฏิบัติงานไดอยางเต็มศักยภาพจะทําใหเกิด
ประโยชนตอตนเองและองคกร ซึ่งจะสามารถชวยขับเคลื่อนการปฏิบัติงานไดอยางมี
ประสิทธิภาพ อันจะสงผลใหเกิดผลสัมฤทธิ์ในการทํางาน
ผลสัมฤทธิ์การทํางาน เปนผลสําเร็จของการปฏิบัติงาน ดานการเงินและบัญชีที่มี
ความถูกตองตามระเบียบการปฏิบัติงานที่กําหนดไดอยางมีประสิทธิภาพ และสามารถนําไป
บูรณาการในการปฏิบัติงานในดานอื่นไดดียิ่งขึ้น ผลสัมฤทธิ์การทํางาน ประกอบดวย ดาน
ความคิดริเริ่มสรางสรรค ดานการสืบเสาะหาขอมูล ดานการคิดวิเคราะห และดานการมอง
ภาพองครวม (ณัฐพร เปรมศักดิ์, 2557, น.10) หากผูปฏิบัติงานมีความตั้งใจในการปฏิบัติงาน
รับรูเปาหมายเดียวกัน และประเมินผลการปฏิบัติงานวามีการปฏิบัติไดครบถวนทุกขั้นตอน
และถูกตอง จะสงผลใหการทํางานเปนไปตามเปาหมายที่กําหนดไว และมีประสิทธิภาพมาก
ขึ้น
จากขอมูลที่กลาวมาแลวขางตน ผูวิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาความสัมพันธระหวางการ
พัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานกับผลสัมฤทธิ์การทํางานของบุคลากรกลุมบริหารงานการเงิน
และสินทรัพย ซึ่งทําการเก็บรวบรวมขอมูลจากบุคลากรผูปฏิบัติงานกลุมบริหารงานการเงิน
และสินทรัพย สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ผลลัพธที่ไดจะเปนแนวทางในการแกปญหาและปรับปรุงการปฏิบัติงานดานการเงินและบัญชี
ใหมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
วัตถุประสงคของงานวิจัย
1. เพื่อศึกษาการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรกลุมบริหารงานการเงิน
และสินทรัพย สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
2. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์การทํางานของบุคลากรกลุมบริหารงานการเงินและสินทรัพย
สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
3. เพื่อศึกษาความสัมพันธระหวางการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานกับผลสัมฤทธิ์
การทํางานของบุคลากรกลุมบริหารงานการเงินและสินทรัพย สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอบเขตของการวิจัย
ประชากร คือ บุคลากรกลุมบริหารงานการเงินและสินทรัพย สังกัดสํานักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจําแนกเปนจังหวัด จํานวน 20
จังหวัด ไดประชากรจํานวนทั้งหมด 652 คน (สํานักงานคณะกรรมการขาราชการครูและ
บุคลากรทางการศึกษา, 2556, น.1-7)