Page 11 - JRISS-vol.2-no1
P. 11

6  Journal of Ratchathani Innovative Social Sciences : Vol.2 No.1 January-March 2018

             อยูบนเตียง และทํามาเรื่อยๆ จนถึงปจจุบัน อานหนังสือที่จะชวยใหตนเองดีขึ้น และนํามา
             ทดลองใชกับตนเองทันที ซึ่งก็ไดผล จนไดขอสรุปวา “คนเราเปลี่ยนแปลงตนเองไดทุกเรื่อง

             โดยไมมีเงื่อนไขหรือขอแม” หรือสรุปสั้นๆ ก็คือ “ลิขิตชีวิตตนเองได” นั่นเอง ดังนั้นเมื่อได
             อานแนวคิดของ Adler จึงถูกใจมาก จนนํามาเขียนเปนบทความนี้เพื่อนักการศึกษาและ
             ผูสนใจทั่วไปจะไดพิจารณาดูครับ
                     จากประสบการณของผูเขียนและแนวคิดของ Adler ที่สรุปมาขางตน พอสรุปไดวา
                     1. เหตุการณ ประสบการณ และสิ่งตาง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเราในชวงที่ผานมา นับตั้งแต

             การไดเกิดเปนใคร พอแม หรือญาติพี่นองเลี้ยงดูแบบไหน เขาโรงเรียนและครูสอนเรามา
             อยางไร และผานมานั้นมีการดําเนินชีวิตมาอยางไร ทั้งหมดนี้เปนเพียงปจจัยตนที่ทําใหเปนอยู
             อยางที่เปนอยูในปจจุบัน ถาเปนเรื่องของกรรมเกาก็คือ เปนสิ่งที่ทําใหเราไดเปนเรา ณ

             ปจจุบันเทานั้น ประสบการณทั้งหมดจะมีผลตอเราอยางไรอยูที่การรับรูและการตีความของ
             เรา ณ ปจจุบัน และสิ่งที่เราจะตัดสินใจและลงมือทําตอนนี้จะเปนแบบไหน และในอนาคตเรา
             จะเอาอยางไร “เปนฝมือของเราเองลวนๆ” ครับ อยางโทษกรรมเกา หรือคนอื่น หรือ
             สิ่งแวดลอมเลยครับ ไมมีใครทําใหเราเปนอยางที่เราเปนได นอกจากตัวเราเอง “ชีวิตเปนของ

             เรา จงเลือกเปนตัวของตัวเอง” ครับ
                     2. คนเราทุกคนมีชีวิตอยูอยางมีเปาหมายกันทุกคน เพียงแตวาเปาหมายนั้นตนเอง
             เปนผูกําหนดหรือไม มีความชัดเจนเพียงใด ยืดหยุนและเปลี่ยนแปลงไดไหม และจะพูด
             ออกมาหรือไมเทานั้น เปาหมายชีวิตของเรานั้นเปนเปาหมายจริง หรือเปาหมายหลอก หรือ

             เปนแคขออางเพื่ออําพรางตนเอง หรือแกตัวไปวันๆ ดังนั้นถาตองการใชชีวิตอยางมีคุณคา มี
             ความหมาย และเพื่อความสําเร็จในชีวิตแลว ตองหาเปาหมายชีวิตของตนใหเจอ และกลาที่จะ
             เปลี่ยนแปลงเพื่อเปาหมายที่กําหนดไว ดังที่ผูเขียนเคยกลาวไววา “คนที่เดินทางโดยไมรูจะไป
             ไหน (ไมมีเปาหมาย) จะไมมีวันถึงจุดหมายปลายทาง” (สมาน อัศวภูมิ, 2539)

                     3. ความรู ทักษะ เจตคติ และประสบการณในอดีตอาจจะเปน “พลังสํารอง” ในการ
             ตัดสินใจและเดินทางตอไปของชีวิต แตเราจะใชเพียงแคพลังสํารองที่เรามี เราก็ไมมีวันที่จะทํา
             ไดดีกวาที่เคยทํามา จึงไมอาจจะสรางความเปลี่ยนแปลงและความแตกตางใหกับชีวิตของตน
             ได

                     4. ผูเขียนเห็นวา “เราทุกคนโชคดีมากที่ไดเกิดเปนคน และไมรูวาชาติไหนจะได
             เกิดอีก และเกิดแลวจะไดเปนคนอีกไหม” แตชาตินี้เปนคนแลว จึงควรที่จะใชความเปนคน
             ใหคุมและมีคุณคาที่สุดครับ และจําไววา “กรรมเกาเปนแคปจจัยที่ทําใหเราไดเกิดในชาตินี้
             และแบบนี้ สวนชีวิตที่เหลือในชาตินี้จะเปนอยางไร เปนฝมือของเราเองทั้งสิ้น” โปรดอยาโทษ

             ฟาดิน หรือคนอื่นครับ
                     5. คิดไดใหลงมือทําทันทีครับ
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16