Page 23 - JRIHS VOL3 NO1 January - March 2019
P. 23

18  Journal of Ratchathani Innovative Health Sciences :   Vol.3 No.1 January-March 2019

                     รายละเอียด        จํานวน(รอยละ)    COR   AOR    Beta   95% CI for AOR  P-value
                                    Case ( 90(   Control(270)      coefficient  Lower  Upper
               ความรูเกี่ยวกับอาการแสดงของ
               Hypoglycemia
                                                                                    32 .
                  ความรูไมถูกตอง   69 ) 76.7)   58 ) 21.5)   12 . 01    7 . 97    2 . 08    1 . 97   22    0.001*
                  ความรูถูกตอง     21 ) 23.3)   ) 21278.5)
               การปฏิบัติตัวเกี่ยวกับการเคยเพิ่ม
               หรือลดขนาดของยาเบาหวาน
                ปฏิบัติไมเหมาะสม   29(32.2)   21 ) 7.8)   5 . 64    6.62   1.89   1.30  33.70   0.02*
                ปฏิบัติเหมาะสม       61 ) 67.8)   ) 24992.2)
               การปฏิบัติตัวพกน้ําตาล ลูกอม
               หรือขนมหวานติดตัวไวเสมอ
                ปฏิบัติไมเหมาะสม    80 ) 88.9)  63(23.3)   25 . 75    13 . 89    2 . 63    1.92  100.31   0.01*
                ปฏิบัติเหมาะสม          10 ) 11.1)  207(76.7)
               หนึ่งสัปดาหที่ผานมา ทานมี
               อาการเหงื่อออกตัวเย็นคลายจะ
               เปนลม มึนงง สับสน และเมื่อ
               รับประทานขาวหรืออาหารที่มีรส
               หวานจะรูสึกดีขึ้น หรือไม
               - อยางนอยหนึ่งครั้ง   54(60.0)  30(11.1)   15 . 87    826  8 .    2 . 18    2 . 58   20    0.001*
                                                                                    30 .
               - ไมเกิดเลย          36(40.0)  240(88.9)
             *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ  .05 ; COR =  crude odds ratio; AOR = adjusted odds ratio

                     ดังนั้นจะเห็นไดวาปจจัยเสี่ยงที่สําคัญที่ทําใหเกิดภาวะน้ําตาลในเลือดต่ําในผูปวย
             เบาหวาน ไดแก การไดรับยาเบาหวานชนิดฉีด(Insulin) การปฏิบัติตัวการดูแลตนเองที่ไม

             เหมาะสมในการเพิ่มหรือลดขนาดยาเบาหวานดวยตนเอง และการไมพกพาลูกอมติดตัวไวเปน
             ประจําทุกครั้ง การไมมีความรู ความเขาใจในอาการและอาการแสดงการเกิดภาวะน้ําตาลใน
             เลือดต่ําและประวัติการเกิดภาวะน้ําตาลในเลือดต่ําที่บานใน 1 สัปดาหที่ผานมา ซึ่งปจจัยเหลานี้

             พบวาเปนปจจัยเสี่ยงที่สําคัญที่จะทําใหผูปวยเบาหวานเกิดภาวะน้ําตาลในเลือดต่ําอยางรุนแรง
             และบางครั้งอาจจะทําใหผูปวยเบาหวานพิการหรือถึงตายได และการศึกษานี้ยังพบวา การที่
             ผูปวยเบาหวานมีหรือไมมีความรูในเรื่องยาเบาหวาน อาจจะไมใชปจจัยเสี่ยงการเกิดภาวะน้ําตาล
             ในเลือดต่ําก็ได แตการที่ผูปวยเบาหวานปฏิบัติตัวไมเหมาะสมในการใชยาเบาหวานนี่เองที่พบวา

             เปนปจจัยเสี่ยงที่สําคัญในการเกิดภาวะน้ําตาลในเลือดต่ําในผูปวยเบาหวาน และปจจัยเสี่ยงที่ได
             จากการวิจัยในครั้งนี้สามารถทํานายการเกิดภาวะน้ําตาลในเลือดต่ําไดดี และนําไปเปนขอมูล
             เบื้องตนในการสรางแบบคัดกรองความเสี่ยงของการเกิดภาวะน้ําตาลในเลือดต่ําในครั้งนี้
                     ผลการศึกษาระยะที่ 2 กลุมตัวอยางสวนใหญเปนเพศหญิงมากกวาเพศชาย และสวน

             ใหญมีอายุมากกวาหรือเทากับ 60 ป และผูปวยเบาหวานนอนโรงพยาบาลดวยภาวะน้ําตาลใน
             เลือดต่ํา จํานวน 223(18.6%) คน และผูปวยเบาหวานนอนโรงพยาบาลดวยภาวะอื่น จํานวน
             977(81.4%) คน รายละเอียด ตามตารางที่ 2
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28