Page 63 - JRIHS VOL2 NO3 July-September 2018
P. 63
58 Journal of Ratchathani Innovative Health Sciences : Vol.2 No.-3 July-September 2018
มีโอกาสเสี่ยงตอการเกิดโรคขอเขาเสื่อมเพิ่มมากขึ้น สอดคลองกับงานวิจัยของยุวดี สารบูรณ
(2557) ที่พบวากลุมตัวอยางมีความเสี่ยงตอการเกิดโรคขอเขาเสื่อมและมีอาการของโรคที่รุนแรง
ขึ้นจากการที่มีความรูเรื่องโรคและการรับรูความเจ็บปวยที่ต่ํา ซึ่งความรูและขอมูลเกี่ยวกับโรค
เปนสิ่งสําคัญที่ทําใหมีการปฏิบัติพฤติกรรมสุขภาพในการปองกันและจัดการกับโรคไดอยาง
ถูกตอง
3. แรงสนับสนุนทางสังคม มีความสัมพันธกับพฤติกรรมการปองกันโรคขอเขาเสื่อมของ
ผูสูงอายุในชุมชนบานทาบอ ตําบลแจระแม อําเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ผูวิจัยเห็นวา การ
ไดรับการสนับสนุนจากครอบครัว จากเพื่อน และจากเจาหนาที่สาธารณสุขทั้งในดานการ
รับประทานอาหาร การออกกําลังกาย การแนะนําใหหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่สงผลตอขอเขา การให
ความรูในสาเหตุการเกิดโรคขอเขาเสื่อม และการใหความรูในการปองกันการเกิดโรคขอเขาเสื่อม
มีผลตอการปองกันการเกิดโรคขอเขาเสื่อมเพราะจะทําใหเกิดความตระหนักถึงการดูแลและ
ปองกันตนเองจากโรคขอเขาเสื่อมเพิ่มมากขึ้น สอดคลองกับงานวิจัยของยุวดี สารบูรณ (2557)
ที่พบวาการไดรับการสนับสนุนโดยกลุมครอบครัว เพื่อน และเจาหนาที่สาธารณสุข เกิดทําให
การเรียนรูที่ดีขึ้นและทําใหปฏิบัติพฤติกรรมสุขภาพไดดีขึ้น และจากการศึกษายังพบวากลุม
ตัวอยางที่ไมมีครอบครัว เพื่อน เจาหนาที่สาธารณสุขสนับสนุนดูแล สวนใหญตองการบุคคลใน
การสนับสนุนดูแล เชน กลุมครอบครัว เพื่อน และเจาหนาที่สาธารณสุข ซึ่งอาจทําใหขาด
แรงจูงใจในการปฏิบัติพฤติกรรมสุขภาพ และสอดคลองกับงานวิจัยของบุญเรียง พิสมัย (2555)
ที่พบวาแรงสนับสนุนเปนปจจัยหนึ่งที่สําคัญตอการกระทําพฤติกรรมการสงเสริมสุขภาพของ
บุคคล และการไดรับกิจกรรมสรางเสริมความรูและทักษะจะทําใหมีมั่นใจในการกระทํา
พฤติกรรมมากขึ้น และกลุมตัวอยางที่ไมมีแรงสนับสนุนทางดานสังคมจะสงผลตอแรงจูงใจในการ
มีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของตนเอง
4. พฤติกรรมการปองกันโรคขอเขาเสื่อมของผูสูงอายุในบานทาบอ ตําบลแจระแม
อําเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยรวมอยูในระดับปฏิบัติบอยครั้ง ซึ่งยังไมถึงระดับปฏิบัติทุก
ครั้ง เพราะเกิดจากระดับความรูเกี่ยวกับการปองกันโรคขอเขาเสื่อมสวนใหญ อยูในระดับปาน
กลาง การรับรูความรุนแรงของโรคขอเขาเสื่อมโดยรวมอยูในระดับเห็นดวย แรงสนับสนุนทาง
สังคมโดยรวม อยูในระดับปานกลาง เนื่องจากกลุมตัวอยางสวนใหญมีความรูอยูในระดับปาน
กลาง สงผลใหขาดความตระหนักรูในการดูแลตนเอง อีกทั้งแรงสนับสนุนทางสังคมทางดาน
ครอบครัวเพื่อนและเจาหนาที่สาธารณสุขอยูในระดับปานกลางจึงทําใหผูสูงอายุไมไดรับความรู
ขอมูลขาวสารเพียงพอเกี่ยวกับการปองกันโรคขอเขาเสื่อม หากผูสูงอายุไดรับความรูเกี่ยวกับการ
ปองกันโรคขอเขาเสื่อม และไดรับแรงสนับสนุนทางดานสังคมเพิ่มมากขึ้น อาจสงผลใหมี
พฤติกรรมการปองกันโรคขอเขาเสื่อมอยูในระดับปฏิบัติทุกครั้ง