Page 58 - JRIHS VOL2 NO1 January-March 2018
P. 58
Journal of Ratchathani Innovative Health Sciences : Vol.2 No.1 January-March 2018 53
(สุจิตรา สมพงษ , 2557) ดังนั้นจึงอาจกลาวไดวาความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจําวันขั้น
พื้นฐานของผูสูงอายุ เปนการประเมินความสามารถในการทําหนาที่ของรางกายเกี่ยวกับการ
ชวยเหลือตัวเองรวมถึงความตองการการชวยเหลือจากบุคคลอื่น จากรายงานพบวาผูสูงอายุวัย
70 ป รอยละ 75 มีความบกพรองในการชวยเหลือตนเอง ซึ่งเปนการปฏิบัติกิจวัตรประจําวันได
เองในเรื่องการอาบน้ํา การสวมใสเสื้อผา การเขาหองน้ํา การเคลื่อนยายและการรับประทาน
อาหาร ซึ่งในทางวิชาการจึงมักจะนําเครื่องมือที่มีมาตรฐานมาใชในการประเมินความสามารถใน
การดําเนินชีวิตประจําวันของผูสูงอายุเพื่อวางแผนการดูแลชวยเหลือทั้งในระบบบริการและการ
ดูแลในครอบครัว ความสุขของผูสูงอายุพบวามีปจจัยที่มีผลตอความสุขในผูสูงอายุ คือ สุขภาพ
รางกายที่ดี จิตใจสดชื่น ความพึงพอใจในชีวิตปจจุบัน การไดชวยเหลือผูอื่น การตระหนักถึง
คุณคาในตนเอง การปฏิบัติกิจกรรมตามหลักพระพุทธศาสนา (วรรณาวิสาข ไชยโย, 2557)
นอกจากนี้ยังพบวาการตระหนักถึงคุณคาในตนเอง การรับรูภาวะสุขภาพ การมีสิ่งยึด
เหนี่ยวทางใจ การมีสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อนและสมาชิกในครอบครัว การสื่อสาร การบรรลุ
เปาหมายในชีวิตและการมีสวนรวมในกิจกรรมและทําประโยชนใหชุมชนทําใหผูสูงอายุมีความสุข
(สุจิตรา สมพงษ, 2557; ขวัญสุดา บุญทศ และขนิษฐา นันทบุตร, 2560)
จากการทบทวนวรรรกรรมขางตน คณะผูวิจัยสนใจศึกษาประเด็นความสุขและ
ความสามารถในการประกอบกิจวัตรประจําวันของผูสูงอายุ โดยมีคําถามในการวิจัยคือผูสูงอายุ
ในชุมชนบานทุงขุนนอย อุบลราชธานีมีความสุขและความสามารถในการประกอบกิจวัตร
ประจําวันอยูในระดับใด
วัตถุประสงคการวิจัย
1. เพื่อศึกษาระดับความสามารถในการประกอบกิจวัตรประจําวันของผูสูงอายุชุมชนทุง
ขุนนอย
2. เพื่อศึกษาระดับความสุขของผูสูงอายุของผูสูงอายุชุมชนทุงขุนนอย
3. เพื่อศึกษาความสัมพันธระหวางความสามารถในการประกอบกิจวัตรประจําวันกับ
ความสุขของผูสูงอายุของผูสูงอายุชุมชนทุงขุนนอย
สมมติฐานการวิจัย
มีความสัมพันธทางบวกระหวางความสามารถในการประกอบกิจวัตรประจําวันกับ
ความสุขของผูสูงอายุชุมชนทุงขุนนอย