Page 40 - JRIHS_VOL1
P. 40
Journal of Ratchathani Innovative Health Sciences : Vol.1 No.1 April-June 2017 35
ส่งผลต่อการปฏิบัติกิจวัตรประจําวัน และยังพบว่าผู้สูงอายุเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลบ่อย
กว่าและใช้ระยะเวลานานกว่าคนอายุน้อยกว่า (Barkin, Barkin, & Barkin, 2005) นอกจากนี้
ความปวดเป็นหนึ่งในอาการที่พบบ่อยที่สุดในผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชน ซึ่งความปวดเกิดจาก
ความผิดปกติของข้อต่ออักเสบและผลลัพธ์ทําให้มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ สาเหตุความปวดที่พบ
ในผู้สูงอายุเช่น เจ็บปวดหน้าอก ปวดหลังส่วนล่าง ปวดคอ ปวดท้อง neuropathic และปวด
ศีรษะ (Tsai, Liu, & Chung, 2010)
การจัดการความปวดในผู้สูงอายุ บุคลากรทางสุขภาพจึงควรให้ความสําคัญ การจัด
ดังกล่าว ประกอบด้วยการใช้ยา และไม่ใช้ยา เช่น การนวด การกดจุด การออกกําลังกาย
(Helme, 2001) ในผู้สูงอายุการดูแลจะต้องใส่ใจในรายละเอียดเพิ่มขึ้น บุคลากรทางสุขภาพ
ต้องมีการวางแผนเฉพาะในการจัดการความปวดและต้องเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของร่างกายใน
วัยผู้สูงอายุซึ่งมีผลต่อการใช้ยา (Kaye, Baluch, & Scott, 2011) นอกจากนี้ ผู้สูงอายุอาจมีการ
เปลี่ยนแปลงทางสังคม จิตใจ และการรับรู้ แตกต่างกับผู้ที่อายุน้อยกว่าทั้งด้านทัศนคติ การ
แสดงออกของความปวด (Tirapo, 2008) และความทนต่อความปวดในผู้สูงอายุแต่ละรายมี
ความแตกต่างกัน (Norelli & Harju, 2008)
การใช้ยาร่วมกับการไม่ใช้ยาเพื่อบรรเทาความปวดนับว่ามีความสําคัญในการจัดการ
ความปวด อย่างไรก็ตาม อุปสรรคในการบรรเทาความปวดด้วยยาในผู้สูงอายุ เนื่องจาก
ค่าใช้จ่ายยาที่มีราคาสูง อาการข้างเคียงของยา และการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (Kaye et al.,
2011; Tsai et al., 2010) นอกจากนี้ยังพบว่าอุปสรรคอื่นในการจัดการความปวดในผู้สูงอายุ
เช่น ผู้ป่วยไม่รู้การจัดการกับความปวดที่ถูกวิธี และอุปสรรคด้านระบบสุขภาพ เช่น ความเชื่อ
เกี่ยวกับการใช้ยาระงับความปวดชนิดสารเสพติด รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมและไม่
ถูกต้องในการรักษาของผู้สูงอายุ เป็นต้น (McCleane, 2007)
แม้ว่าการจัดการความปวดในผู้สูงอายุที่ได้ผลคือการใช้ยา แต่การใช้ยาไม่สามารถที่จะ
บรรเทาความเจ็บปวดได้เสมอไป และอาจทําให้เกิดฤทธิ์ข้างเคียง หากมีการจัดการความปวดไม่
เพียงพอ จะส่งผลกระทบต่อภาวะสุขภาพด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม ทําให้อารมณ์
เปลี่ยนแปลงโดยผู้ป่วยจะมีความกลัว โกรธ ไม่พึงพอใจ ทุกข์ทรมาน นอนไม่หลับนํามาซึ่งความ
ไม่สุขสบาย ส่งผลให้ความสามารถของร่างกายลดลง (Tirapo, 2008)
งานวิจัยในต่างประเทศ มีการศึกษาเกี่ยวกับการดูแลตนเองในการจัดการความปวดของ
ผู้สูงอายุ โดยส่วนใหญ่ พบว่าผู้สูงอายุดูแลจัดการความปวดด้วยตนเองอย่างน้อยหนึ่งวิธี ซึ่ง
ประกอบด้วย โดยการใช้ยา การออกกําลังกาย กิจกรรมทางศาสนา การใช้ยาเป็นวิธีการที่ใช้มาก