Page 29 - JRIHS VOL3 NO1 January - March 2019
P. 29

24  Journal of Ratchathani Innovative Health Sciences :   Vol.3 No.1 January-March 2019

               และมีความจําเพาะ เทากับ  %    76 . 5  เทากับ60.จึงเปนคาคะแนนความเสี่  % 2ยงที่เหมาะสมใน
             การเกิดโรคเบาหวาน

                     ดังนั้นจากการทบทวนงานวิจัยเกี่ยวกับการสรางแบบคัดกรองความเสี่ยงดังกลาว เมื่อ
             พิจารณาวิธีการกําหนดคาคะแนนความเสี่ยง และประสิทธิภาพแบบคัดกรองความเสี่ยง กับ แบบ
             คัดกรองความเสี่ยงการเกิดภาวะน้ําตาลในเลือดต่ําในผูปวยเบาหวานที่ผูวิจัยสรางขึ้น แบบคัด
             กรองความเสี่ยง การเกิดภาวะน้ําตาลในเลือดต่ําที่สรางขึ้นนาจะใหผลการคัดกรองคลายคลึงกับ
             แบบคัดกรองความเสี่ยงดังกลาว เนื่องจากแบบคัดกรองการเกิดภาวะน้ําตาลในเลือดต่ําที่ผูวิจัย

             สรางขึ้น มีวิธีการกําหนดคาคะแนนความเสี่ยงที่คลายคลึงกัน และใหคาความไวและ
             ความจําเพาะที่ใกลเคียงกับแบบคัดกรองความเสี่ยงดังกลาวนั้น


             ขอเสนอแนะในการนําผลการวิจัยไปใช
                     1. ผูบริหารสามารถนําขอมูลที่ไดจากการวิจัยนี้ นํามาวางแผนนโยบายในการพัฒนา
             คุณภาพการใหบริการในคลินิกเบาหวาน และการดูแลรักษาผูปวยเบาหวานใหดียิ่งขึ้นได โดยการ
             สนับสนุนใหมีการคัดกรองภาวะน้ําตาลในเลือดต่ํา ซึ่งนาจะทําใหไมตองสูญเสีย งบประมาณใน
             การดูแลรักษาผูปวยแบบนี้เพิ่มขึ้น

                     2. บุคลากรสาธารณสุขสามารถนําแบบคัดกรองความเสี่ยงนี้ เพื่อคนหาผูปวยเบาหวาน
             ที่มีภาวะเสี่ยงตอการเกิดน้ําตาลในเลือดต่ําได และใชขอมูลที่ไดจากการคัดกรองความเสี่ยงนี้
             นําไปสูการวางแผนการปองกันการเกิดภาวะน้ําตาลในเลือดต่ําและความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นไดกับ

             ผูปวยเบาหวานเหลานี้
                     3. ควรมีการศึกษาและวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การพัฒนาแบบคัดกรองความเสี่ยงการเกิด
             น้ําตาลในเลือดต่ําในผูปวยเบาหวานในระดับโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลศูนย และศึกษา
             ความพึงพอใจของผูปวยเบาหวานและพยาบาลในการใชแบบคัดกรองความเสี่ยงนี้


             สรุปผลการวิจัย
                     แบบคัดกรองนี้ เปนเครื่องมืออยางหนึ่งที่มีคุณสมบัติใชงาย ไมยุงยาก และที่สําคัญจาก
             ผลการวิจัยที่ไดจะชวยในการคนหากลุมเสี่ยงที่จะเกิดภาวะน้ําตาลในเลือดต่ําในผูปวยเบาหวาน

             ไดอยางมีประสิทธิภาพ คือ มีความถูกตอง แมนย่ํา และนาเชื่อถือได จึงเหมาะสมสําหรับ
             บุคลากรสาธารณสุข หรือพยาบาลที่ใหบริการตึกผูปวยนอก และ หนวยบริการปฐมภูมิ

             กิตติกรรมประกาศ

                     ผูวิจัยขอขอบพระคุณอาจารยที่ปรึกษา ผูทรงคุณวุฒิในการตรวจสอบเครื่องมือทุกทาน
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34