Page 31 - JRIHS VOL2 NO4 October-December 2018
P. 31
26 Journal of Ratchathani Innovative Health Sciences : Vol.2 No.4 October-December 2018
ปลูกฝงทัศนคติที่ดีตอวิชาชีพ และสามารถสรางพยาบาลวิชาชีพที่พึงประสงคและมีคุณภาพ ซึ่ง
ในกระบวนการจัดการเรียนการสอนจะมีประสิทธิภาพได หากมีองคประกอบดานการศึกษา
อาจารยพยาบาล อาจารยพี่เลี้ยง การเรียนการสอน สิ่งแวดลอม และบรรยากาศในการจัดการ
เรียนการสอนที่มีความสอดคลองกัน
ผูวิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาวาปจจัยที่มีผลตอทักษะปฏิบัติการพยาบาลและทัศนคติตอ
วิชาชีพ ตามการรับรูของนักศึกษาพยาบาลที่ขึ้นฝกภาคปฏิบัติครั้งแรกนั้นเปนอยางไร เพื่อเปน
ประโยชนในการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติของหมวดวิชาชีพการ
พยาบาลตอไป
วัตถุประสงค
1. เพื่อศึกษาระดับการปรับตัว ในการขึ้นฝกปฏิบัติงานบนหอผูปวย ของนักศึกษา
พยาบาลชั้นปที่ 2 ปการศึกษา 2560
2. เพื่อศึกษาปจจัยดานลักษณะสวนบุคคล ไดแก อายุ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ที่มี
ความสัมพันธในการขึ้นฝกปฏิบัติงานบนหอผูปวยของนักศึกษาพยาบาลชั้นปที่ 2 ปการศึกษา 2560
3. เพื่อหาความสัมพันธระหวางปจจัยดานลักษณะสวนบุคคล ในการขึ้นฝกปฏิบัติงาน
บนหอผูปวยของนักศึกษาพยาบาลชั้นปที่ 2 ปการศึกษา 2560
ขอบเขตของการวิจัย
ประชากรของการศึกษาในครั้งนี้ คือ นักศึกษาพยาบาลชั้นปที่ 2 ปการศึกษา 2560
ขณะขึ้นฝกปฏิบัติการพยาบาลชวงเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ พ.ศ.2561
กลุมตัวอยางของการศึกษาในครั้งนี้ คือ นักศึกษาพยาบาลชั้นปที่ 2 ขณะขึ้นฝกปฏิบัติ
การพยาบาล จํานวน 100 คน การคัดเลือกกลุมตัวอยาง แบบบังเอิญ (Accidental sampling) การ
เลือกกลุมตัวอยางครั้งนี้ใชสูตรของ Taro Yamane ในการกําหนดระดับความเชื่อมั่นที่รอยละ 95
ตัวแปรที่ใชในการศึกษา ตัวแปรปจจัยดานลักษณะสวนบุคคล คือ เพศ อายุ และ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมาเปนตัวแปรแบงประเภทของประชากร ที่มีผลตอสถานการณการ
ปรับตัว 5 ดาน ประกอบดวย 1) การนําความรูและทักษะการพยาบาลมาใช 2) ภาระงาน 3)
กฎระเบียบขอบังคับ 4) สัมพันธภาพภายในกลุม สัมพันธภาพระหวางอาจารยนิเทศ และ 5)
สถานที่ในการขึ้นฝกปฏิบัติ