Page 76 - JRIHS VOL2 NO2 April-June 2018
P. 76

Journal of Ratchathani Innovative Health Sciences :  Vol.2 No.2 April-June 2018   71

                และเมื่อเปรียบเทียบการตระหนักรูในตนเองของนักศึกษาพยาบาลชั้นปที่ และชั้นป    2    ชั้นปที่  1
                พบวา นักศึกษาพยาบาลแตละชั้นปมีการตระหนักรูในตนเองที่แตกตางกัน อยางมีนัยสําคัญ  ที่   3

                   .  ทางสถิติที่ระดับ05 ซึ่งเปนไปไดวา นักศึกษาพยาบาลเมื่อเริ่มเขามาศึกษาในชั้นปที่ 1 นักศึกษา
                ยังไมมีพื้นฐานทางดานวิชาชีพพยาบาล และการจัดการศึกษาตามหลักสูตรสวนใหญ ยังเปน
                รายวิชาทางสายวิทยาศาสตร สุขภาพที่ตอเนื่องจากมัธยมศึกษาปที่ 6 แตเมื่อเริ่มเขาสูชั้นปที่ 2
                รายวิชาในหลักสูตรจะเริ่มเขาสูพื้นฐานวิชาชีพ มากขึ้นไดเรียนวิชา การพยาบาลพื้นฐาน และชั้น
                ปที่ 3 ก็จะเรียนการพยาบาลในแตละสาขา รวมไปถึงการไดขึ้นฝกปฏิบัติ  การพยาบาลบนหอ

                ผูปวย ยิ่งทําใหระดับของการตระหนักรูเพิ่มมากขึ้นที่จะทําใหเกิดความเขาใจในชีวิต และความมี
                คุณคาของชีวิตของผูปวย ซึ่งสอดคลองกับการศึกษาของวราพร วันไชยธนวงค (2560) ที่กลาววา
                การพัฒนาความตระหนักในคุณคาของชีวิตสําหรับนักศึกษา ทําใหนักศึกษาสามารถแสดง

                พฤติกรรมที่มาจากภายใน เขาถึงความรูสึกนึกคิดของตนเอง รับรูคุณคา ความสําคัญของตนเอง
                รับรูถึงปญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในชีวิต มีการคนหาความหมายและเปาหมายของชีวิต ดําเนิน
                ชีวิตอยางมีจุดหมายและเปาหมายที่ชัดเจนสถาบันการศึกษาที่ผลิตนักศึกษาพยาบาล จึงควร
                พัฒนาความตระหนักในคุณคาของชีวิตแกนักศึกษาผูซึ่งจะกาวสูการเปนพยาบาลวิชาชีพใน

                อนาคต
                        2 .  เพื่อเปรียบเทียบการรับรูประโยชนของความตระหนักรูในตนเองของนักศึกษา
                พยาบาลชั้นปที่  และชั้นปที่ 3    2    ชั้นปที่  1    พบวานักศึกษาพยาบาลมีการรับรูประโยชนของการ
                ตระหนักรูในตนเองอยูในระดับมากที่สุด โดยนักศึกษาพยาบาลชั้นปที่ มีการรับรูประโยชนของ  3

                การตระหนักรูในตนเองอยูในระดับมากที่สุด รองลงมาคือนักศึกษาพยาบาลชั้นปที่ 2 และ 1
                ตามลําดับ ซึ่งการเปรียบเทียบการรับรูประโยชนการตระหนักรูในตนเองของนักศึกษาพยาบาล
                ชั้นปที่ มีการรับรูประโยชนของการตระหนักรูในตนเองที่แตกตางกัน     3    และชั้นปที่    2    ชั้นปที่  1
                อยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ . 05  ซึ่งจากผลการศึกษา เปนไปไดวานักศึกษาพยาบาลที่ชั้นป

                สูงขึ้น ตองมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้นทั้งตอตนเองและผูปวย โดยจะไดรับการปลูกฝงเพื่อเตรียม
                ตัวเขาสูวิชาชีพโดยสมบูรณเมื่อสําเร็จการศึกษาไปแลว ดังนั้นจึงตองรับรูถึงประโยชนของการ
                ตระหนักรูในตนเองมากขึ้น สอดคลองกับจรูญรัตน รอดเนียม (2556) ศึกษาการรับรูประโยชน
                การรับรูอุปสรรคและการรับรูความสามารถของ ตนเองกับพฤติกรรมสรางเสริมสุขภาพและภาวะ

                สุขภาพของนักศึกษาพยาบาล พบวาการรับรูประโยชนของพฤติกรรมสรางเสริมสุขภาพอยูใน
                ระดับมากที่สุด การรับรูความสามารถของตนเอง พฤติกรรมการสรางเสริมสุขภาพและภาวะ
                สุขภาพของนักศึกษาอยูในระดับมาก ดังนั้นการระบรูประโยชนของการตระหนักรูในตนเองจึง
                เปนเรื่องสําคัญสําหรับนักศึกษาพยาบาล ดังที่ เรวัต เงินเย็น ( 2558(   ความตระหนักในคุณคาแหง

                ตน มีประโยชนทําใหรูจักตัวตนที่แทจริง เกิดการปรับปรุงตนเองดวยความสมัครใจ สามารถดึง
                เอาพลังแหงศักยภาพของตนมาใชใหเกิดประโยชนสูงสุดได มีความสุขในการปฏิบัติหนาที่การ
   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81