Page 59 - JRIHS VOL1 NO3 October-December 2017
P. 59

54  Journal of Ratchathani Innovative Health Sciences :  Vol.1 No.3 October-December 2017

             ใหทุนสนับสนุนกิจกรรมตาง ๆ ของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล มีงานวิชาการยืนยันแลววา สิ่ง
             เหลานี้มีผลตอทัศนคติเชิงบวกตอการดื่ม การเลือกแบรนดในการดื่ม และการตัดสินใจดื่มของ

             เยาวชน (นงนุช ใจชื่น และคณะ, 2560)
                     ปญหาของการมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการบริโภคสุราที่มีมาอยางตอเนื่อง ทําใหเกิด
             การปรับเปลี่ยนแนวคิดในการแกไขปญหา จากการตั้งรับ ไปสูนโยบายเชิงรุก โดยใชยุทธศาสตร
             การมีสวนรวมใหคนในชุมชนไดตระหนักถึงสภาพปญหาของการมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่ หรือ
             การบริโภคยาสูบที่มีมาอยางตอเนื่อง (สุวรรณี แสงอาทิตย, 2550) เกิดความรับผิดชอบตอปญหา

             ที่เกิดขึ้นในชุมชนของตนเอง พรอมทั้งหาวิธีการแกไข พฤติกรรมการสูบบุหรี่หรือการบริโภค
             ยาสูบ เปนเรื่องที่เกี่ยวของกับพฤติกรรมของบุคคลในชุมชน ดังนั้น การดําเนินงานในการรณรงค
             เพื่อควบคุมการสูบบุหรี่และบริโภคยาสูบ มุงใหมีการลด/ละ/เลิกการสูบบุหรี่ เนื่องจากการงด

             บริโภคยาสูบหรือการหยุดสูบบุหรี่ จะทําใหอัตราการเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวของกับการบริโภค
             ยาสูบหรือการสูบบุหรี่ลดลง โดยเนนใหคนในชุมชนเห็นความสําคัญและถือเปนภารกิจที่ตอง
             ชวยกัน กระตุนและชักนําใหคนในชุมชน องคกรชุมชน ตลอดจนเครือขายสุขภาพใหมีสวนรวม
             อยางจริงจังและตอเนื่อง


             วัตถุประสงคการวิจัย
                     1. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลชองคนในชุมชนเมือง จังหวัด
             อุดรธานี

                     2. เพื่อศึกษาระดับความเสี่ยงของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลชองคนในชุมชนเมือง
             จังหวัดอุดรธานี

             วิธีดําเนินการวิจัย

                     ประชากรและกลุมตัวอยาง
                     ประชากรที่ใชในการศึกษาครั้งนี้ คือ ผูดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลที่อาศัยอยูในชุมชนเมือง
             จังหวัดอุดรธานี และยินยอมเขารวมโครงการวิจัย

                     ขนาดของกลุมตัวอยางการศึกษานี้ คํานวณกลุมตัวอยางโดยใชโปรแกรม n4Studies
             (Ngamjarus C. and Chongsuvivatwong V., 2014) ซึ่งกําหนดคาความแปรปรวนประชากร
             จากการศึกษานํารองเทากับ SD. = 0.25, Delta = 0.05, Alpha = 0.05, Z(0.975) = 1.959964
             ไดขนาดของกลุมตัวอยางเทากับ = 97 เพื่อความสมบูรณของงานวิจัย เนื่องจากถากลุมตัวอยาง
             ยิ่งมากคาความคลาดเคลื่อนก็จะยิ่งนอยลง ซึ่งจะทําใหขอมูลมีความเที่ยงตรงสูง ในการศึกษา

             วิจัยครั้งนี้จึงใชกลุมตัวอยางซึ่งไดจากการสุมแบบเฉพาะเจาะจง จํานวน 102 คน (Wayne W.,
             D., 1995)
   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64